ถาม-ตอบ กรณีธรรมกาย ความจริงที่ว่า เอาสวรรค์มาล่อ เอานรกมาขู่ !!!

แนวทางการสอนของพระพุทธเจ้า 

        มีบางคนเข้าใจผิดว่า การสอนว่า “ทำดี ตายแล้วไปสวรรค์ ทำบาป ตายแล้วตกนรก ” เป็นการสอนที่ผิด เอาสวรรค์มาล่อ เอานรกมาขู่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว แนวการสอนที่พระพุทธเจ้าทรงใช้มากที่สุด คือ 



        อนุปุพพิกถา การสอนไปตามขั้นตอนเพื่อปรับจิตผู้ฟังให้ละเอียดผ่องใสขึ้นตามลำดับ ดังนี้ 

        1. ทานกถา สอนเรื่องการให้ทาน 

        2. ศีลกถา สอนเรื่องการรักษาศีล 

        3. สัคคกถา พรรณนาเรื่องสวรรค์ ความงดงามน่ารื่นรมย์ยินดีของทิพยสมบัติเพื่อให้เห็นอานิสงส์ของการให้ทาน และรักษาศีล ว่าจะทำให้ได้ไปเกิดบนสวรรค์ 

        4. กามาทีนพ สอนเรื่องโทษของกาม 

        5. เนกขัมมานิสงส์ สอนเรื่องอานิสงส์ของการออกบวช 

        เมื่อใจของผู้ฟังยกสูงขึ้นละเอียดดีแล้ว จึงสอนต่อด้วยอริยสัจ 4 
เรื่องราวเกี่ยวกับสวรรค์มีกล่าวไว้มากมายในพระไตรปิฎก ที่รวมไว้เฉพาะเป็นเล่มเลยก็มี เรียกว่า วิมานวัตถุ เรื่องของวิมาน และเรื่องของนรกก็มีกล่าวไว้มากมาย เรื่องเปรต ก็กล่าวไว้เป็นคัมภีร์เฉพาะ เรียกว่า เปตวัตถุ 

        ตัวอย่างในครั้งพุทธกาล: ลาชเทพธิดา 


ขอบคุณภาพจาก flash-mini.com

        มีหญิงชาวนาคนหนึ่ง ได้ทำข้าวตอกใส่ไว้ในขันแล้วมีโอกาสได้ใส่บาตร ถวายพระมหากัสสปะ ซึ่งเพิ่งออกจากนิโรธสมาบัติ ระหว่างเดินกลับบ้าน วิบากกรรมตามมาทัน ถูกงูกัดตาย 
ผลบุญทำให้ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีวิมานทองโตใหญ่มาก ที่ประตูวิมานประดับเรียงรายด้วยขันทองคำ มีข้าวตอกทองคำห้อยระย้าอยู่อย่างงดงาม 2 

        จะเห็นว่าทำบุญอย่างไรก็ได้อย่างนั้น ทำบุญด้วยข้าวตอก ก็ได้วิมานประดับด้วยข้าวตอกทองคำ ใช้ขันเป็นภาชนะ ก็มีขันทองคำประดับเรียงราย มีเรื่องราวทำนองนี้อยู่มากมายในพระไตรปิฎกและอรรถกถา

        พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมถึงความจริงของโลกและชีวิต กฎแห่งกรรม บุญบาป นรก สวรรค์ แล้วทรงนำมาสอนเรา 

        บรรพบุรุษไทยแต่โบราณก็ได้ปลูกฝังศีลธรรมในหมู่ประชาชนให้รักบุญกลัวบาปตามแนวทางของพระพุทธเจ้านี้เอง อาทิ ไตรภูมิพระร่วง พระราชนิพนธ์ของพญาลิไท กษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัย ซึ่งพรรณนาถึง นรก สวรรค์ ภพภูมิต่างๆ ก็เป็นหนังสือที่เผยแพร่ไปอย่างกว้างขวาง ช่วยปลูกฝังศีลธรรมแก่ชาวไทยมายาวนาน ทำให้สังคมไทยสงบร่มเย็น อยู่เย็นเป็นสุข จนได้ชื่อว่า “สยามเมืองยิ้ม” 

        คนปัจจุบันใจหยาบ บ้างก็ไม่เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม จนพาลจะปฏิเสธการสอนเรื่องนรก สวรรค์ ซึ่งเป็นแนวการสอนของพระพุทธเจ้า ทำให้สังคมวุ่นวาย คนเห็นแก่ตัวมากขึ้น “ยิ้มสยาม แทบจะกลายเป็นยิ้มสยอง” ไปแล้ว น่าเสียดายที่สมญานาม “ ยิ้มสยาม ” ของไทยค่อยๆหายสูญไป 

        ศิลปกรรมตามโบสถ์ วิหารต่างๆ ก็มีภาพเขียนของสวรรค์ เทวดา นางฟ้ามากมาย บ้างก็ทำเป็นรูปปั้น หรืองานแกะสลักไม้ ปูน แม้กระทั่งงานประติมากรรมโลหะ 

        ปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้น เราก็ควรจะได้ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ในการเผยแผ่ธรรมะ เช่น ทำภาพของนรก สวรรค์ ทิพยสมบัติทั้งหลายออกเผยแผ่ตามสื่อต่างๆ เป็นภาพนิ่ง หรือถ้าทำเป็นแอนิเมชั่นได้ยิ่งดี เพื่อปลุกกระแสศีลธรรม ความรักบุญ กลัวบาป ให้กลับมาสู่สังคมไทย เพื่อความร่มเย็นเป็นสุขของบ้านเมืองเรา 

        การสื่อสารในปัจจุบันเป็นไปอย่างรวดเร็ว หากมีพระภิกษุนำเรื่องนรก สวรรค์มาสอนแล้วมีคนพาลติเตียนต่อต้านพระ หาว่าเอาสวรรค์มาล่อ เอานรกมาขู่ หากเราไม่รู้ไปตามแห่ผสมโรงวิจารณ์พระด้วย กดไลท์กดแชร์ข้อความที่เป็นวจีทุจริตในสังคมออนไลน์ เราก็จะพลอยบาปไปด้วย แชร์ไปถึงคน 100 คน ก็บาป 100 เท่า น่ากลัวจริงๆ อย่าไปทำ ตรงกันข้ามถ้าแชร์ข้อความธรรมะ ยิ่งไปถึงคนกว้างเท่าใด เราก็ได้บุญมากไปตามส่วน

        ดังนั้นเรามาช่วยกันเผยแพร่ภาพและข้อความธรรมะให้มากๆกันเถิด ให้คนรักบุญกลัวบาป สังคมจะได้สงบร่มเย็น 4 

(คำบรรยายประกอบภาพ) 
“ไม่ใช่เอาสวรรค์มาล่อ เอานรกมาขู่ ” 
แต่พระพุทธเจ้าทรง “ นำความจริงมาบอก ”

http://www.dhammakaya.net/
https://www.dmc.tv
ถาม-ตอบ กรณีธรรมกาย ความจริงที่ว่า เอาสวรรค์มาล่อ เอานรกมาขู่ !!! ถาม-ตอบ กรณีธรรมกาย ความจริงที่ว่า เอาสวรรค์มาล่อ เอานรกมาขู่ !!! Reviewed by Unknown on 05:25 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.